การละเล่นพื้นบ้านของภาคกลางและภาคตะวันออกกลองยาว กระบี่กระบอง หลุมเมือง การแข่งวัวลาน มวยไทยการเล่นที่เกี่ยวเนื่องกับการทำนา การเล่นในเทศกาลงานบุญ ตรุษ สงกรานต์ และการเล่นในฤดูน้ำหลาก มักเรียกการละเล่นพื้นเมืองนี้ว่าเป็น การเล่นเพลง การเล่นเพลงที่เกี่ยวเนื่องจากการทำนาก็เป็นการเล่นตามขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ได้แก่ เพลงเกี่ยวข้าว เพลงนา เพลงเต้นกำรำเคียว เพลงรำเคียว เพลงชักกระดาน เพลงพาดควาย เมื่อหมดฤดูทำนาก้มักจะเล่นเพลงปฏิพากย์ ได้แก่ เพลงฉ่อย เพลงเรือ เพลงปรบไก่ เพลงชาวไร่ หรือระบำชาวไร่ เพลงพวงมาลัย เพลงอีแซว เพลงลำตัด เพลงเหย่อย เพลงเทพทอง เพลงไก่ป่า และยังมีอีกมากแต่ปัจจุบันได้ล้าสมัยและสูญหายไปเป็นส่วนใหญ่ เถิดเทิงหรือการละเล่นเทิ้งบ้องกลองยาว
ประเพณีการเล่นเถิดเทิงหรือการละเล่นเทิ้งบ้องกลองยาว สันนิษฐานว่าเป็นของพม่าเล่นมาก่อน ตั้งแต่ครั้งทำสงครามสมัยกรุงธนบุรี เครื่องประกอบการเล่นคือ กลองยาว กรับ ฉาบ และโหม่ง ผู้เล่นแต่งตัวเลียนแบบเครื่องแต่งกายพม่า หรือจะให้สวยงามตามความพอใจก็ได้ ใส่เสื้อแขนกว้างและยาวถึงข้อมือ นุ่งโสร่งตา มีผ้าโพกศีรษะ ผู้ตีกลองยาวบางพวกตีหกหัวหกก้น แลบลิ้นปลิ้นตา กลอกหน้า ยักคิ้วยักคอไปพลาง ผุ้ตีกลองจะต้องแสดงความสามารถในการตีกลองด้วยท่าทางต่างๆ เช่น ถองหน้ากลองด้วยสอก โขกด้วยคาง กระทุ้งด้วยเข่า โหม่ด้วยหัว และด้วยลีลาท่าทางต่างๆ ที่จะทำให้กลองยาวดังขึ้นได้ เถิดเทิงหรือการละเล่นเทิ้งบ้องกลองยาวเป็นประเพณีการเล่นในภาคกลาง นิยมเล่นในเวลาตรุษสงกรานต์ หรืองานแห่แหน ซึ่งต้องเดินเคลื่อนขบวน พอถึงที่ใดเห็นมีลานกว้างเป็นที่เหมาะก็หยุดตั้งวงเล่น และรำกันเสียพักหนึ่ง เคลื่อนไปเล่นไปสลับกัน
กระบี่กระบอง
เป็นการละเล่นที่นำเอาอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ของนักรบไทยสมัยโบราณมาใช้ มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จากประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้น ชาวบ้านต้องเผชิญกับภัยสงครามอย่างโชกโชนถึงกับเสียเมือง ซึ่งอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ประหัตประหารกัน ได้แก่ ดาบ หอก ทวน แหลน หลาว และเครื่องป้องกัน 2 อย่าง คือ กระบี่ กระบอง ในยามสงบทหารจะฝึกซ้อมเพื่อเตรียมรับข้าศึกในยามสงคราม ปัจจุบัน กระบี่กระบองไม่ได้เป็นอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้แล้ว แต่ยังฝึกซ้อมไว้สำหรับแสดงถึงเอกลักษณ์ของชาติ ด้านศิลปะป้องกันตัว นิยมฝึกหัดและเล่นกันในสถานศึกษา ชมรม และค่ายป้องกันตัว เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตตามประวัติศาสตร์ชาติไทย การเล่นจะมีเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ได้แก่กลองแขก ฉิ่งฉาบ เพื่อให้เกิดความเร้าใจและความฮึกเหิมในบทบาทของการต่อสู้
หลุมเมือง
อุปกรณ์และวิธีการเล่นวิธีเล่น ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายนั่งอยู่คนละข้างหลุม (จำนวนหลุมมีไม่จำกัด) ตกลงกันว่าจะกองทุนคนละเท่าใด เอาเบี้ยหรือสิ่งอื่นใช้แทนเบี้ยมารวมกัน แล้วหยอดใส่หลุมไว้หลุมละเท่าๆ กันแต่ หลุมหน้าผู้เล่นทั้งสองต้องมากกว่าหลุมอื่น ซึ่งเรียกว่า หลุมเมือง เมื่อเริ่มเล่นฝ่ายใดเริ่มก่อนจะหยอดเบี้ยใส่หลุมไปเรื่อยๆ ตามลำดับจนหมดเบี้ย เมื่อหมดเบี้ยในมือก็หยิบเอาเบี้ยในหลุมถัดไปหยอดต่อทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบหลุมว่าง ผู้เล่นคนแรกจึงมีสิทธิกินเบี้ยทั้งหมดในหลุมถัดไป (ถัดจากหลุมว่าง) ผู้เล่นคนที่สองก็จะดำเนินการเล่นเหมือนคนแรก เมื่อพบหลุมว่างและกินเบี้ยหลุมถัดไป จึงผลัดกันเล่นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดทุนเลิกไป ผู้อื่นก็จะมาเล่นแทน โอกาสหรือเวลาที่เล่นนิยมเล่นในเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลสงกรานต์ ในปัจจุบันไม่ค่อยมีผู้ใดรู้จัก แต่ก็ยังมีการเล่นอยู่บ้างในเขตตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี สาระลักษณะการเล่น เล่นเชิงพนันขันต่อ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศในเทศกาลนั้นๆ มิได้คำนึงถึงเวลาหรือกังวลภาระกิจอื่นใด ผู้เล่นกีฬาหลุมเมืองส่วนมากจะเป็นผู้มีฐานะดี แรกเริ่มเจ้าเมืองต่างเมืองจะมาเล่นพนันขันต่อกัน หลังจากนั้นไม่จำกัด ใครมีฐานะดีก็เล่นทั่วไป
อุปกรณ์และวิธีการเล่นการแข่งขันวัวลานนี้ ชาวบ้านจะนำวัวมาวิ่งแข่งกันเป็นวงกลมในลานที่กำหนด โดยมีเสาเกียดซึ่งปักอยู่กลางถนนเป็นศูนย์กลาง ผูกเชือกพรวนของวัวแต่ละตัวเรียงกันตามลำดับ จากในเสาเกียดออกมาถึงริมลาน รวมจำนวน ๑๙ ตัว ซึ่งเจ้าของพวงวัวแต่ละพวงก็จะตระเตรียมวัวของตนมาทั้งวัวนอกและวัวในหรือวัวรอง โอกาสหรือเวลาที่เล่นการแข่งขันวัวลานนี้ จะแข่งขันกันในช่วงฤดูแล้ง หรือช่วงเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว และออกพรรษาแล้ว ในช่วงเข้าพรรษาจะงดการแข่งขันโดยสิ้นเชิง สาระ"วัวลาน" เป็นการเล่นพื้นบ้านหรือกีฬาพื้นบ้านอย่างหนึ่งของชาวจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง จัดเป็นหัวใจของคนท้องถิ่น ด้วยว่า "วัว" เป็นสัตว์ที่คลุกคลีอยู่กับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านมาแต่ครั้งบรรพกาล การแข่งขันวัวลานจึงเป็นกีฬาของลูกผู้ชายชาวเมืองเพชรโดยแท้
วิธีเล่นอุปกรณ์๑. เวที ต้องยกสูงจากพื้นไม่ต่ำกว่า ๔ ฟุต ไม่เกิน ๕ ฟุต สร้างอย่างแข็งแรงปลอดภัยตามแบบมาตรฐานกำหนด วิธีเล่น๑. การไหว้ครูและร่ายรำ เริ่มที่กราบ ๓ ครั้ง เพื่อระลึกถึงบิดา มารดา ครู อาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ตลอดจนขอพรพระคุ้มครองให้ชนะ ด้วยความปลอดภัยที่สุด แล้วร่ายรำไปรอบ ๆ เวทีตามแบบฉบับของครูที่สอนไว้ให้ ดนตรีจะบรรเลงจังหวะช้า ซึ่งเป็นศิลปที่แตกต่างจากชาติใด ๆ เป็นจุดที่น่าสนใจมาก และแสดงถึงเอกลักษณ์ประจำชาติด้วย สาระผู้ได้รับการฝึกวิชามวยไทยจนมีฝีมือแล้ว ย่อมทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคม เช่น ทำให้มีความมั่นใจในตนเอง เกิดความกล้าหาญ มีอำนาจบังคับจิตใจดีขึ้น มีความสุขุมเยือกเย็น ไม่ดีใจหรือเสียใจง่าย มีความพินิจพิเคราะห์และรู้จักใช้เหตุผล มีความมานะอดทนในการสร้างสมรรถภาพทางกาย มีเชาว์และไหวพริบ ไวทันต่อเหตุการณ์และสามารถใช้เป็นศิลปะป้องกันตัว มีความเข้มแข็งอดทน ไม่ท้อแท้ หรือจำนนต่อเหตุการณ์ง่าย ๆ และมีความรักสุจริตยุติธรรม
|